Sunday, January 26, 2014

Fushibao induction cooker circuit - Signal_Processing - Circuit ... | induction cooker circuits

Fushibao induction cooker circuit - Signal_Processing - Circuit ... | induction cooker circuits

Circuit Analysis of the 1.8kW Induction Hotplate | Openschemes

Panasonic KY-P2N induction cooker circuit diagram ...

Fushibao induction cooker circuit - Signal_Processing - Circuit ...
Fushibao induction cooker circuit - Signal_Processing - Circuit ...
Fushibao induction cooker circuit - Signal_Processing - Circuit ... | induction cooker circuits
HF-10A induction cooker circuit - Amplifier_Circuits-Audio ...

7 comments:

เอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม ฯ อะถะโข อัญญะตะรา เทวะตา อะภิกกันตายะ รัตติยา อะภิกกันตะวัณณา เกวะละกัปปัง เชตะวะนัง โอภาเสตวา เยนะ ภะคะวา เต said...

กราบขอบพระคุณ และอนุโมทนา หลวงพ่อและท่านอาจารย์ มากครับที่กรุณา ให้โอกาส
ทานบารมีเต็ม ก็ตัดความโลภได้ ศีลบารมีเต็ม ก็ตัดความโกรธได้ เนกขัมมะบารมีเต็ม ก็ตัดกามารมณ์ได้ ปัญญาบารมีเต็มก็ตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหานได้ วิริยะบารมีเต็มก็ตัดความเกียจคร้าน ย่อหย่อนในธรรมปฏิบัติก็ไม่มี ขันติ บารมีเต็ม ก็อดทนต่อความชั่วที่เข้ามากระทบอารมณ์ได้ สัจจะบารมีเต็ม ก็ตัดความโลเลไม่เอาจริงในผลการปฏิบัติได้ อธิษฐาน บารมีเต็ม ก็มีกำลังคือมีสติกำหนดรู้ในการกระทำ ไม่ว่าทางด้านกาย-วาจา-ใจว่าเราจักทำเพื่อพระนิพพานอยู่เสมอ ไม่คลอนแคลน เมตตาบารมีเต็ม ก็ตัดอารมณ์ที่เข้ามาเป็นไฟเผาผลาญจิต รัก สงสารจิตของตนเองเต็มที่แล้ว ทางโลกไม่มีใครที่รักบ้านตน แล้วจุดไฟเผาบ้านตนเองได้ ฉันใดก็ฉันนั้น เมื่อจิตเราเมตตาจิตตนเองได้แล้ว ก็จักไม่จุดไฟโมหะ-โทสะ-ราคะให้เผาใจตนเองอีก อุเบกขาบารมีเต็ม ก็จักตัดความทุกข์ อันเกิดแก่กายและจิตของตนเองและผู้อื่นลงได้ สำหรับทางร่างกายก็จักเป็น สังขารุเบกขาญาณ วางเฉยในทุกข์ของร่างกายลงได้ สำหรับทางจิตก็จักพ้นทุกข์ คือ ปลอดจากบ่วงกิเลส ตัณหาลงได้อย่างสิ้นเชิง

เอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม ฯ อะถะโข อัญญะตะรา เทวะตา อะภิกกันตายะ รัตติยา อะภิกกันตะวัณณา เกวะละกัปปัง เชตะวะนัง โอภาเสตวา เยนะ ภะคะวา เต said...

ถ้าเราตามรู้จิตใจของเราทุกวันๆ เราจะเห็นเลย
ความสุขอยู่ชั่วคราว แล้วก็หาย ความทุกข์อยู่ชั่วคราวแล้วก็หาย
โลภ โกรธ หลง อยู่ชั่วคราว แล้วก็หาย กุศลอยู่ชั่วคราวแล้วก็หายไป
ถ้าตามดูอย่างนี้นานๆไปนะ จิตมันยอมรับความจริงว่า
สิ่งใดเกิดขึ้นสิ่งนั้นดับไป ความสุขเกิดขึ้นจิตไม่หลงระเริง
ความทุกข์เกิดขึ้นจิตไม่กลุ้มใจ จิตมันจะเป็นกลาง
ต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่มันไปรู้เข้า จิตที่มันเป็นกลางต่อทุกสิ่งทุกอย่าง
นี่นะ ตัวนี้เป็นตัวสำคัญ นี่เป็นคือประตูแห่งการบรรลุมรรคผล
พอมันเป็นกลางกับทุกสิ่งทุกอย่าง มันจะไม่ปรุงแต่งต่อ
อย่างถ้ามันไม่เป็นกลาง มันจะปรุงแต่งต่อ เช่น ความโกรธเกิดขึ้น
อยากให้หาย ก็ต้องหาทางทำให้หาย เห็นมั้ยปรุงแต่งต่อล่ะ
ความสุขเกิดขึ้นอยากให้อยู่นานๆ ต้องหาทางรักษา นี่ปรุงแต่งต่อ
มีการทำงาน แต่ถ้ามันเห็นทุกสิ่งทุกอย่างเกิดแล้วก็ดับๆ
ไม่ปรุงแต่งต่อ จิตจะพ้นจากความปรุงแต่ง ตามรู้ตามดูจนมันพอ
สติ สมาธิ ปัญญาแก่รอบ จิตใจยอมรับความจริง ยอมรับไตรลักษณ์
ว่าทุกอย่างเกิดแล้วก็ดับ ถึงจุดนี้เนี่ย มันจะเป็นรอยแยก
พวกที่หวังพุทธภูมินะ ก็มีโอกาสจะเป็นพระโพธิสัตว์
ที่ได้รับคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า ไม่ใช่พยากรณ์จากหมอดูนะ
ต้องพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า พวกที่ไม่ได้หวังจะเป็นพระโพธิสัตว์
แต่หวังความพ้นทุกข์นะ จิตมีโอกาสที่จะเกิดมรรคผลได้

เวลาที่จิตจะเกิดมรรคผลนั้น จิตจะรวมเข้าอัปนาสมาธิ
เพราะฉะนั้นเวลาท่านพูดถึงองค์มรรคเนี่ย สัมมาสมาธิ
ท่านจะพูดด้วยอัปนาสมาธิ ด้วยฌาน ๔
พวกเราตอนที่เจริญสติอยู่นี่เรียกว่า เจริญบุพพภาคมรรค
เบื้องต้นแห่งมรรคยังไม่เป็นฌานนะ
เราหัดเจริญสติอยู่ในชีวิตประจำวันอย่างนี้ ถึงวันที่อริยมรรคจะเกิด
จิตจะรวมเข้าฌานโดยอัตโนมัตินะ จิตเวลาที่เกิดมรรคเกิดผล
จะไม่เกิดในจิตของคนธรรมดา นี่เรียกว่ากามาวจรจิต กามาวจรภูมิ
ไม่เป็นอย่างนั้น จะต้องเข้าฌานนะ เมื่อมันรวมเข้าไปแล้วมันจะเห็น
สภาวะธรรมนี่เกิดดับสองขณะหรือสามขณะ แต่ละคนไม่เท่ากันนะ
ถัดจากนั้นจิตจะวางการรู้อารมณ์ ทวนกระแสเข้ามาหาธาตุรู้
สิ่งที่ห่อหุ้มปกคลุมธาตุรู้อยู่นี่ ถูกอริยมรรคแหวกออกไป
แล้วก็มันจะไปเห็นนิพพานนะ นิพพานไม่ใช่ว่างเปล่า
นิพพานไม่ใช่โลกๆหนึ่ง พวกเรายังไม่เคยเห็น
เราก็วาดภาพสุดโต่งไปสองข้าง ข้างหนึ่งก็นิพพานเป็นโลกๆหนึ่ง
พวกนี้พวกสัสตะทิฐิ มีของที่เที่ยงคงที่
อีกพวกหนึ่งคิดว่านิพพานสูญไปเลย ขณะนั้นไม่มีอะไรเหลือเลย
กระทั่งสติ พวกนี้หลงไปล่ะ คิดว่านิพพานไม่มีอะไรเลย
นี่พวกอุจเฉททิฐินะ นิพพานมีนะ นิพพานมีสภาวะรองรับ
สภาวะของนิพพานคือสันติ คือความสงบนั่นเอง
สงบจากอะไร สงบจากกิเลส
สงบจากอะไร สงบจากความปรุงแต่ง
สงบจากอะไร สงบจากการแบกหามขันธ์นะ ดังนั้นเราภาวนานะ

เนี่ยจาก ฮ นกฮูก ไปหา ก ไก่ จาก ก ไก่ กลับมา ฮ นกฮูกล่ะ
เราจะเรียนได้แค่ไหน ป ปลาได้มั้ย หึๆๆ

เอ้าชั่วโมงนึงพอดีๆนะ
ให้หลวงพ่อเทศน์เรื่องนี้ยาวมากนะ เนื้อหามันยาวมากเลย
เทศน์รอบเดียวไม่จบหรอก

เอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม ฯ อะถะโข อัญญะตะรา เทวะตา อะภิกกันตายะ รัตติยา อะภิกกันตะวัณณา เกวะละกัปปัง เชตะวะนัง โอภาเสตวา เยนะ ภะคะวา เต said...


วิธีซ่อมเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 INDUCTION COOKER REPAIR 2
Sompong Tungmepol
ดู 16,909 ครั้ง
4:56

จิตจะรวมเข้าฌานโดยอัตโนมัตินะ จิตเวลาที่เกิดมรรคเกิดผล จะไม่เกิดในจิตของคนธรรมดา
Sompong Tungmepol
ขอแนะนำสำหรับคุณ
52:38

วิธีซ่อมเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 3 INDUCTION COOKER REPAIR 3
Sompong Tungmepol
ดู 34,156 ครั้ง
19:31

การซ่อมเตาแม่เหล็กไฟฟ้า จำหน่าย ออกแบบ ซ่อม สร้าง แก้ไข ดัดแปลง แผงวงจรเครื่องใช้ไฟฟ้า
Sompong Tungmepol
ดู 10,786 ครั้ง
7:25

สิ่งที่ห่อหุ้มปกคลุมธาตุรู้อยู่นี่ ถูกอริยมรรคแหวกออกไป แล้วก็มันจะไปเห็นนิพพานนะ
Sompong Tungmepol
ขอแนะนำสำหรับคุณใหม่
4:38

Top Four (4) Power Problem Repair Of Induction Cooker - Very Useful
Creative World
ดู 164,748 ครั้ง
7:30

ข้อสรุปนิพพานไม่สูญ หลวงปู่มั่นพบพระพุทธเจ้า l หลวงพ่อพุธตอบคำถามพระสังฆราชเกี่ยวกับนิพพาน
PLODLOCK - ปลดล็อค
ขอแนะนำสำหรับคุณ
22:20

รับออกแบบ สร้าง ซ่อม เครื่องอัด แบตเตอรี่
Sompong Tungmepol
ดู 1,054 ครั้ง
10:06

สภาวะของนิพพานคือสันติ
Sompong Tungmepol
ขอแนะนำสำหรับคุณใหม่
4:37

วิธี ซ่อม เตา แม่เหล็ก ไฟฟ้า induction cooker repair
หมดเกิดหมดแก่หมดเจ็บหมดตาย
ดู 4,002 ครั้ง
5:56

พระอรหันต์นิพพานแล้วไปไหน นิพพานสูตร คำสอนเรื่องนิพพานจากพระโอษฐ์พระพุทธเจ้า
PLODLOCK - ปลดล็อค
ขอแนะนำสำหรับคุณ
15:34

พระพุทธเจ้าสอน ให้เรา เรียนจนรู้ความจริงว่าความทุกข์มันเกิดได้อย่างไร ทำอย่างไรถึงจะไม่ทุกข์
หมดเกิดหมดแก่หมดเจ็บหมดตาย
ไม่มีผู้เข้าชมใหม่
4:38

การซ่อมตู้เชื่อมอินเวอร์เตอร์ตอนภาคจ่ายไฟหนทางยาวไกล ก้าวไปพร้อมกันอย่ามัวแต่เล่นไลน์เฟสต้องทำงาน
Sompong Tungmepol
ดู 57,703 ครั้ง
10:48

วิธีซ่อมเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 1 INDUCTION COOKER REPAIR1
Sompong Tungmepol
ดู 31,412 ครั้ง
6:01

พระพุทธเจ้าสอน ให้เรา เรียนจนรู้ความจริงว่าความทุกข์มันเกิดได้อย่างไร ทำอย่างไรถึงจะไม่ทุกข์
หมดเกิดหมดแก่หมดเจ็บหมดตาย
ไม่มีผู้เข้าชมใหม่
4:38

พระพุทธเจ้าสอน ให้เรา เรียนจนรู้ความจริงว่าความทุกข์มันเกิดได้อย่างไร ทำอย่างไรถึงจะไม่ทุกข์
หมดเกิดหมดแก่หมดเจ็บหมดตาย
ไม่มีผู้เข้าชมใหม่
4:38

How to repair auto off Induction Cooker (Power Problem)
Creative World
ดู 63,856 ครั้ง
3:25

พระพุทธเจ้าสอน ให้เรา เรียนจนรู้ความจริงว่าความทุกข์มันเกิดได้อย่างไร ทำอย่างไรถึงจะไม่ทุกข์
หมดเกิดหมดแก่หมดเจ็บหมดตาย
ดู 1 ครั้งใหม่
4:38

philips induction cooktop repair in hindi
creative hardware & scientist
ดู 18,331 ครั้ง
19:53

ผู้ไม่ประมาท
Sompong Tungmepol
ขอแนะนำสำหรับคุณ
9:29
แสดงเพิ่ม

เอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม ฯ อะถะโข อัญญะตะรา เทวะตา อะภิกกันตายะ รัตติยา อะภิกกันตะวัณณา เกวะละกัปปัง เชตะวะนัง โอภาเสตวา เยนะ ภะคะวา เต said...


เป็นกลางอีกอันหนึ่งเรียก เป็นกลางด้วยมีสติ เป็นกลางอีกอย่างหนึ่ง เป็นกลางด้วยปัญญา เป็นกลางแบบมีสติ ก็คือ เช่น เราขับรถอยู่ คนมันปาดหน้า ใจเราโมโหขึ้นมา เราเห็นเลยใจมันโมโห พอเราเป็นนักปฏิบัตินี่
เราเห็นว่าใจเราโมโหขึ้นมาไม่ดี คุณแม่บอกให้เมตตา โมโหไม่ดีใช่มั๊ย เราต้องรีบไปรู้ทันใจที่ไม่ชอบ
ความโกรธเกิดขึ้นแล้วใจเกิดยินร้าย ไม่ชอบความโกรธ หรือกุศลเกิดขึ้นใจเราหลงยินดีเราไม่รู้ว่ายินดี
อย่างนี้จิตไม่เป็นกลาง ถ้าจิตยินดีเรารู้ทัน จิตยินร้ายเรารู้ทัน มันจะเป็นกลางด้วยสติ แต่ถ้าเป็นกลางด้วยปัญญา
ตรงนี้สำคัญมากเลย ก่อนที่จะเกิดอริยมรรคนี่ จิตจะเป็นกลางด้วยปัญญา แล้วมันจะเห็นเลยว่า
ความสุขก็ชั่วคราว ความทุกข์ก็ชั่วคราว กุศลก็ชั่วคราวนะ โลภ โกรธ หลง อะไรต่ออะไรก็ชั่วคราว
ฟุ้งซ่านก็ชั่วคราว หดหู่ก็ชั่วคราว ทุกอย่างชั่วคราวหมดเลยถ้าเมื่อไหร่ จิตเห็นว่าทุกอย่างเป็นของชั่วคราว
จิตมันจะเป็นกลางด้วยปัญญาขึ้นมา ความสุขเกิดขึ้นมันไม่หลงระเริงแล้ว เพราะมันรู้แล้วว่าชั่วคราว
ความทุกข์เกิดขึ้นมันไม่ทุรนทุราย เพราะมันรู้ว่าชั่วคราว ดีใจ เสียใจ สมหวัง ผิดหวัง มันไม่หลงระเริงเลยนะ
ไม่เสียอกเสียใจเพราะมันรู้ว่าชั่วคราว เห็นไหมพอมันเห็นว่าทุกอย่าง เป็นของชั่วคราวนี่ ใจจะหมดความดิ้นรน
นี่เรียกว่า เป็นกลางด้วยปัญญา ก่อนที่จะเกิดอริยมรรคนี่ จิตจะเป็นกลางด้วยปัญญา ก่อนที่จิตจะเป็นกลาง ด้วยปัญญานี่ เราจะต้อง หัดเจริญสติ ตามดูความเปลี่ยนแปลงของกาย ของใจ เรื่อยไป จนปัญญามันเกิดว่าทุกอย่างชั่วคราว สุข ทุกข์ ดี ชั่ว ชั่วคราว หายใจออก หายใจเข้า ชั่วคราว ยืนก็ชั่วคราว เดินก็ชั่วคราว นั่ง นอนชั่วคราว
ดูไปเรื่อยๆ นะ มีแต่ของชั่วคราวไปหมดเลย มาเสถียรก็มาชั่วคราวใช่ไหมนะ เดี๋ยวก็ไปแล้ว นี่ทุกอย่างชั่วคราวนะ ดูไป ทุกสิ่งในชีวิตเรานะ ถ้าเห็นว่าทุกอย่างชั่วคราวนะ ต่อไปไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นจิตจะเป็นกลาง
จิตที่เป็นกลางแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น จิตจะหมดความดิ้นรน จิตที่ไม่เป็นกลางนะมันจะดิ้นรนไม่เลิก

พวกเรารู้สึกไหม อย่างจิตใจเราไม่มีความสุข เราอยากให้มีความสุข เราเกลียดความทุกข์ จิตที่เกลียดความทุกข์ก็ดิ้นรนนะ ดิ้นว่าทำอย่างไรจะมีความสุข หรือจิตมันดิ้นรนหาความสุข จิตดิ้นรนหนีความทุกข์ การที่จิตต้องดิ้นรนอยู่ตลอดเวลานี่นะ คือตัวทุกข์เลย จิตจะมีแต่ความทุกข์ล้วนๆ เลย สร้างภพ สร้างชาติ สร้างความปรุงแต่งอยู่ตลอดเวลา พวกเราเห็นไหม ในใจของเรามีความอยากเกิดตลอดเวลา ไปหัดดูนะ แล้วเราจะเห็นเลยใจเรามีความอยากตลอดเวลา เดี๋ยวอยากดู เดี๋ยวอยากฟัง เดี๋ยวอยากคิด เดี๋ยวอยากหนีไปที่อื่นอย่างตอนนี้แดดร้อนแล้วอยากหนีแล้ว ถอยได้นะถอย ถอยไปอยู่ข้างหลัง ถอยได้ แบ่งๆ กันนะ แบ่งๆกัน หรือจะเอาเสื่อ ขึ้นคลุมก็ไม่ว่านะ
สังเกตมั้ยตอนหัวเราะเมื่อกี้ใจฟุ้งซ่าน ดูออกมั้ย ลืมตัวเอง นี่ฝึกนะ ฝึกรู้อย่างนี้แหละ ดูไปเรื่อยๆนะ

ถึงจุดหนึ่งที่ปัญญามันพอนี่ จิตมันจะรวม รวมเข้าอัปปนาสมาธิ รวมของมันเองนะ
แล้วจะเห็นสภาวะธรรมเกิดดับอยู่สองสามขณะ
แล้วถัดจากนั้นอริยะมรรคก็จะเกิดขึ้น จะล้างกิเลส
อริยมรรคเวลาล้างกิเลส จะไม่เหมือนการล้างกิเลสด้วยสติ
ด้วยสมาธิ ด้วยศีล ด้วยการข่มไว้

อริยมรรค เวลาล้างกิเลส
ล้างตัวไหนแล้วล้างเลย ไม่ต้องล้างอีกแล้ว
ล้างทีเดียวสะอาดหมดจด ไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว
แล้วเราค่อยๆ ฝึกนะ วันหนึ่งเราได้เป็นพระอริยะ
อย่าวาดภาพว่าพระอริยะยากเกินไป
อย่าวาดภาพว่าพระอริยะอยู่ไกล บารมีเราน้อย
มัวแต่คิดว่าบารมีน้อยไม่ภาวนา มันก็น้อยไปทุกชาตินั่นแหล่ะ
ถึงบารมีน้อยก็ขยันภาวนานะ
หายใจไปก็รู้สึกตัวไป หายใจไปรู้สึกตัวไป
มีสติรู้สึกตัวไปเรื่อย อย่าให้ลืมตัวเอง
ต่อไปก็หายใจไป เห็นร่างกายที่หายใจอยู่ไม่ใช่เรา
เห็นจิตใจมันทำงานได้เองนะ นี่ขั้นเดินปัญญา
ง่ายๆ แค่นี้แหละ ลองไปทำดู

เอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม ฯ อะถะโข อัญญะตะรา เทวะตา อะภิกกันตายะ รัตติยา อะภิกกันตะวัณณา เกวะละกัปปัง เชตะวะนัง โอภาเสตวา เยนะ ภะคะวา เต said...


เป็นกลางอีกอันหนึ่งเรียก เป็นกลางด้วยมีสติ เป็นกลางอีกอย่างหนึ่ง เป็นกลางด้วยปัญญา เป็นกลางแบบมีสติ ก็คือ เช่น เราขับรถอยู่ คนมันปาดหน้า ใจเราโมโหขึ้นมา เราเห็นเลยใจมันโมโห พอเราเป็นนักปฏิบัตินี่
เราเห็นว่าใจเราโมโหขึ้นมาไม่ดี คุณแม่บอกให้เมตตา โมโหไม่ดีใช่มั๊ย เราต้องรีบไปรู้ทันใจที่ไม่ชอบ
ความโกรธเกิดขึ้นแล้วใจเกิดยินร้าย ไม่ชอบความโกรธ หรือกุศลเกิดขึ้นใจเราหลงยินดีเราไม่รู้ว่ายินดี
อย่างนี้จิตไม่เป็นกลาง ถ้าจิตยินดีเรารู้ทัน จิตยินร้ายเรารู้ทัน มันจะเป็นกลางด้วยสติ แต่ถ้าเป็นกลางด้วยปัญญา
ตรงนี้สำคัญมากเลย ก่อนที่จะเกิดอริยมรรคนี่ จิตจะเป็นกลางด้วยปัญญา แล้วมันจะเห็นเลยว่า
ความสุขก็ชั่วคราว ความทุกข์ก็ชั่วคราว กุศลก็ชั่วคราวนะ โลภ โกรธ หลง อะไรต่ออะไรก็ชั่วคราว
ฟุ้งซ่านก็ชั่วคราว หดหู่ก็ชั่วคราว ทุกอย่างชั่วคราวหมดเลยถ้าเมื่อไหร่ จิตเห็นว่าทุกอย่างเป็นของชั่วคราว
จิตมันจะเป็นกลางด้วยปัญญาขึ้นมา ความสุขเกิดขึ้นมันไม่หลงระเริงแล้ว เพราะมันรู้แล้วว่าชั่วคราว
ความทุกข์เกิดขึ้นมันไม่ทุรนทุราย เพราะมันรู้ว่าชั่วคราว ดีใจ เสียใจ สมหวัง ผิดหวัง มันไม่หลงระเริงเลยนะ
ไม่เสียอกเสียใจเพราะมันรู้ว่าชั่วคราว เห็นไหมพอมันเห็นว่าทุกอย่าง เป็นของชั่วคราวนี่ ใจจะหมดความดิ้นรน
นี่เรียกว่า เป็นกลางด้วยปัญญา ก่อนที่จะเกิดอริยมรรคนี่ จิตจะเป็นกลางด้วยปัญญา ก่อนที่จิตจะเป็นกลาง ด้วยปัญญานี่ เราจะต้อง หัดเจริญสติ ตามดูความเปลี่ยนแปลงของกาย ของใจ เรื่อยไป จนปัญญามันเกิดว่าทุกอย่างชั่วคราว สุข ทุกข์ ดี ชั่ว ชั่วคราว หายใจออก หายใจเข้า ชั่วคราว ยืนก็ชั่วคราว เดินก็ชั่วคราว นั่ง นอนชั่วคราว
ดูไปเรื่อยๆ นะ มีแต่ของชั่วคราวไปหมดเลย มาเสถียรก็มาชั่วคราวใช่ไหมนะ เดี๋ยวก็ไปแล้ว นี่ทุกอย่างชั่วคราวนะ ดูไป ทุกสิ่งในชีวิตเรานะ ถ้าเห็นว่าทุกอย่างชั่วคราวนะ ต่อไปไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นจิตจะเป็นกลาง
จิตที่เป็นกลางแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น จิตจะหมดความดิ้นรน จิตที่ไม่เป็นกลางนะมันจะดิ้นรนไม่เลิก

พวกเรารู้สึกไหม อย่างจิตใจเราไม่มีความสุข เราอยากให้มีความสุข เราเกลียดความทุกข์ จิตที่เกลียดความทุกข์ก็ดิ้นรนนะ ดิ้นว่าทำอย่างไรจะมีความสุข หรือจิตมันดิ้นรนหาความสุข จิตดิ้นรนหนีความทุกข์ การที่จิตต้องดิ้นรนอยู่ตลอดเวลานี่นะ คือตัวทุกข์เลย จิตจะมีแต่ความทุกข์ล้วนๆ เลย สร้างภพ สร้างชาติ สร้างความปรุงแต่งอยู่ตลอดเวลา พวกเราเห็นไหม ในใจของเรามีความอยากเกิดตลอดเวลา ไปหัดดูนะ แล้วเราจะเห็นเลยใจเรามีความอยากตลอดเวลา เดี๋ยวอยากดู เดี๋ยวอยากฟัง เดี๋ยวอยากคิด เดี๋ยวอยากหนีไปที่อื่นอย่างตอนนี้แดดร้อนแล้วอยากหนีแล้ว ถอยได้นะถอย ถอยไปอยู่ข้างหลัง ถอยได้ แบ่งๆ กันนะ แบ่งๆกัน หรือจะเอาเสื่อ ขึ้นคลุมก็ไม่ว่านะ
สังเกตมั้ยตอนหัวเราะเมื่อกี้ใจฟุ้งซ่าน ดูออกมั้ย ลืมตัวเอง นี่ฝึกนะ ฝึกรู้อย่างนี้แหละ ดูไปเรื่อยๆนะ

ถึงจุดหนึ่งที่ปัญญามันพอนี่ จิตมันจะรวม รวมเข้าอัปปนาสมาธิ รวมของมันเองนะ
แล้วจะเห็นสภาวะธรรมเกิดดับอยู่สองสามขณะ
แล้วถัดจากนั้นอริยะมรรคก็จะเกิดขึ้น จะล้างกิเลส
อริยมรรคเวลาล้างกิเลส จะไม่เหมือนการล้างกิเลสด้วยสติ
ด้วยสมาธิ ด้วยศีล ด้วยการข่มไว้

อริยมรรค เวลาล้างกิเลส
ล้างตัวไหนแล้วล้างเลย ไม่ต้องล้างอีกแล้ว
ล้างทีเดียวสะอาดหมดจด ไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว
แล้วเราค่อยๆ ฝึกนะ วันหนึ่งเราได้เป็นพระอริยะ
อย่าวาดภาพว่าพระอริยะยากเกินไป
อย่าวาดภาพว่าพระอริยะอยู่ไกล บารมีเราน้อย
มัวแต่คิดว่าบารมีน้อยไม่ภาวนา มันก็น้อยไปทุกชาตินั่นแหล่ะ
ถึงบารมีน้อยก็ขยันภาวนานะ
หายใจไปก็รู้สึกตัวไป หายใจไปรู้สึกตัวไป
มีสติรู้สึกตัวไปเรื่อย อย่าให้ลืมตัวเอง
ต่อไปก็หายใจไป เห็นร่างกายที่หายใจอยู่ไม่ใช่เรา
เห็นจิตใจมันทำงานได้เองนะ นี่ขั้นเดินปัญญา
ง่ายๆ แค่นี้แหละ ลองไปทำดู

เอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม ฯ อะถะโข อัญญะตะรา เทวะตา อะภิกกันตายะ รัตติยา อะภิกกันตะวัณณา เกวะละกัปปัง เชตะวะนัง โอภาเสตวา เยนะ ภะคะวา เต said...


วิธีซ่อมเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 INDUCTION COOKER REPAIR 2
Sompong Tungmepol
ดู 16,909 ครั้ง
4:56

จิตจะรวมเข้าฌานโดยอัตโนมัตินะ จิตเวลาที่เกิดมรรคเกิดผล จะไม่เกิดในจิตของคนธรรมดา
Sompong Tungmepol
ขอแนะนำสำหรับคุณ
52:38

วิธีซ่อมเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 3 INDUCTION COOKER REPAIR 3
Sompong Tungmepol
ดู 34,156 ครั้ง
19:31

การซ่อมเตาแม่เหล็กไฟฟ้า จำหน่าย ออกแบบ ซ่อม สร้าง แก้ไข ดัดแปลง แผงวงจรเครื่องใช้ไฟฟ้า
Sompong Tungmepol
ดู 10,786 ครั้ง
7:25

สิ่งที่ห่อหุ้มปกคลุมธาตุรู้อยู่นี่ ถูกอริยมรรคแหวกออกไป แล้วก็มันจะไปเห็นนิพพานนะ
Sompong Tungmepol
ขอแนะนำสำหรับคุณใหม่
4:38

Top Four (4) Power Problem Repair Of Induction Cooker - Very Useful
Creative World
ดู 164,748 ครั้ง
7:30

ข้อสรุปนิพพานไม่สูญ หลวงปู่มั่นพบพระพุทธเจ้า l หลวงพ่อพุธตอบคำถามพระสังฆราชเกี่ยวกับนิพพาน
PLODLOCK - ปลดล็อค
ขอแนะนำสำหรับคุณ
22:20

รับออกแบบ สร้าง ซ่อม เครื่องอัด แบตเตอรี่
Sompong Tungmepol
ดู 1,054 ครั้ง
10:06

สภาวะของนิพพานคือสันติ
Sompong Tungmepol
ขอแนะนำสำหรับคุณใหม่
4:37

วิธี ซ่อม เตา แม่เหล็ก ไฟฟ้า induction cooker repair
หมดเกิดหมดแก่หมดเจ็บหมดตาย
ดู 4,002 ครั้ง
5:56

พระอรหันต์นิพพานแล้วไปไหน นิพพานสูตร คำสอนเรื่องนิพพานจากพระโอษฐ์พระพุทธเจ้า
PLODLOCK - ปลดล็อค
ขอแนะนำสำหรับคุณ
15:34

พระพุทธเจ้าสอน ให้เรา เรียนจนรู้ความจริงว่าความทุกข์มันเกิดได้อย่างไร ทำอย่างไรถึงจะไม่ทุกข์
หมดเกิดหมดแก่หมดเจ็บหมดตาย
ไม่มีผู้เข้าชมใหม่
4:38

การซ่อมตู้เชื่อมอินเวอร์เตอร์ตอนภาคจ่ายไฟหนทางยาวไกล ก้าวไปพร้อมกันอย่ามัวแต่เล่นไลน์เฟสต้องทำงาน
Sompong Tungmepol
ดู 57,703 ครั้ง
10:48

วิธีซ่อมเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 1 INDUCTION COOKER REPAIR1
Sompong Tungmepol
ดู 31,412 ครั้ง
6:01

พระพุทธเจ้าสอน ให้เรา เรียนจนรู้ความจริงว่าความทุกข์มันเกิดได้อย่างไร ทำอย่างไรถึงจะไม่ทุกข์
หมดเกิดหมดแก่หมดเจ็บหมดตาย
ไม่มีผู้เข้าชมใหม่
4:38

พระพุทธเจ้าสอน ให้เรา เรียนจนรู้ความจริงว่าความทุกข์มันเกิดได้อย่างไร ทำอย่างไรถึงจะไม่ทุกข์
หมดเกิดหมดแก่หมดเจ็บหมดตาย
ไม่มีผู้เข้าชมใหม่
4:38

How to repair auto off Induction Cooker (Power Problem)
Creative World
ดู 63,856 ครั้ง
3:25

พระพุทธเจ้าสอน ให้เรา เรียนจนรู้ความจริงว่าความทุกข์มันเกิดได้อย่างไร ทำอย่างไรถึงจะไม่ทุกข์
หมดเกิดหมดแก่หมดเจ็บหมดตาย
ดู 1 ครั้งใหม่
4:38

philips induction cooktop repair in hindi
creative hardware & scientist
ดู 18,331 ครั้ง
19:53

ผู้ไม่ประมาท
Sompong Tungmepol
ขอแนะนำสำหรับคุณ
9:29
แสดงเพิ่ม

เอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม ฯ อะถะโข อัญญะตะรา เทวะตา อะภิกกันตายะ รัตติยา อะภิกกันตะวัณณา เกวะละกัปปัง เชตะวะนัง โอภาเสตวา เยนะ ภะคะวา เต said...


หมดเกิดหมดแก่หมดเจ็บหมดตาย
2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช : การที่เราได้ยินธรรมะเกี่ยวกับการรู้สึกตัว
ได้ยินธรรมะเกี่ยวกับการแยกธาตุแยกขันธ์นะ
ไม่ใช่คนทั่วๆไปจะได้ยินได้หรอก มันเป็นธรรมะในขั้นการปฏิบัติ
แล้วก็ไม่ใช่ปฏิบัติเหยาะๆแหยะๆ เป็นธรรมะที่หวังมรรคผลนิพพานกันจริงๆ
ถ้าเราไม่ได้หวังถึงมรรคผลนิพพานไม่ต้องรู้สึกตัวก็ได้
ทำบุญให้ทานอะไรอย่างนั้นไป ทำบุญทำทานไป
ถึงเวลาไปนั่งสมาธิเคลิ้มไปเคลิ้มมาแค่นั้นก็มีความสุขแล้ว
แต่พวกเราไม่ได้ต้องการแค่นั้น
บารมีพวกเรามี ถึงวันนี้มันก็คงแก่กล้าขึ้นบ้างแล้วล่ะ
ถึงไม่ทันสมัยพุทธกาลนะ แต่ว่ายังไม่สิ้นศาสนาพุทธไปก็ยังทันตรงกลางพุทธกาลนี้แหละ
ต้นพุทธกาลไม่ทัน มาทันกึ่งพุทธกาล
ถึงจะน้อยก็ไม่เป็นไร คนหนึ่งก็ดีกว่าไม่มีสักคน
ตราบใดยังมีคนศึกษาปฏิบัติอยู่สักคนหนึ่งนะ เรียกว่าศาสนายังไม่สูญนะ
ในคัมภีร์พูดถึงวันที่ศาสนาสูญไป บอกว่าพระเจ้าแผ่นดินให้ไปประกาศ
ว่าถ้าใครทรงจำพระธรรมะวินัยได้สักประโยคหนี่งนะ จะให้รางวัลมากมาย
ประกาศอยู่นาน ไม่มีเลย ไม่มีใครเคยได้ยินเรื่องพระธรรมวินัยเลย
อันนั้นถือว่าสูญไปแล้ว หมดศาสนาแล้ว

แต่พวกเรายังไม่หมด ธรรมะชั้นสูงในการปฏิบัติยังเหลืออยู่
อยู่ที่พวกเราปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรมหรือเปล่าเท่านั้นเอง
ธรรมะในขั้นทาน ทำทานรักษาศีลอะไรอย่างนี้เป็นสาธารณะ
ยุคไหนสมัยไหนก็มี ในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนา การทำทานรักษาศีลก็มี การนั่งสมาธิก็มี
แต่ไม่มีการเจริญปัญญาในขั้นวิปัสสนากรรมฐานที่จะข้ามภพข้ามชาติข้ามโลกไป
ก่อนที่เราจะมาเจริญปัญญา ทำวิปัสสนากรรมฐานได้เนี่ย ต้องรู้ก่อน
วิปัสสนากรรมฐานนั้นต้องมีสติ รู้กายรู้ใจตามความเป็นจริงจะเห็นไตรลักษณ์ของมัน

พวกเราอย่าไปปล่อยตัวปล่อยใจตามกิเลส
ส่วนพวกที่มีความเพียรแล้วลอยขึ้น ฟูขึ้น ก็คือพวกที่อยากดี
พยายามควบคุมตัวเอง ควบคุมกายควบคุมใจให้มันดี
มุ่งให้มันดีให้มันสุขให้มันสงบ ตั้งเป้าไปที่ดีที่สุขที่สงบ
อย่างนั่งสมาธิก็นั่งเอาดี นั่งเอาสุข นั่งเอาสงบ
จะทำบุญทำทานก็ยังตั้งเป้าหมาย อยากโน้นอยากนี้อยู่ ควบคุมตัวเองอยู่
พยายามบังคับตัวเอง อยากกินไม่กิน อยากนอนไม่นอน อะไรอย่างนี้
พากเพียร แต่ทำไปโดยมุ่งเอาดี เอาสุข เอาสงบ
ตั้งเป้าไว้ตรงนี้แล้วพากเพียร ทำไปแล้วได้อะไร อย่างมาก็ได้ดี ได้สุข ได้สงบน่ะสิ

แต่ดีไม่เที่ยง สุขไม่เที่ยง สงบไม่เที่ยง
เอาของไม่เที่ยงเป็นสาระแก่นสาร
เอาของที่ยังไม่ใช่สาระที่แท้จริงมาเป็นสาระที่แท้จริง
มันก็ดีอยู่ชั่วคราวแล้วมันก็เสื่อม สุขอยู่ชั่วคราวแล้วก็เสื่อม สงบอยู่ชั่วคราวแล้วก็เสื่อมนะ
ลอยขึ้นไป ทำความดีแล้วก็ลอยขึ้นไปนะ
ขึ้นไปสู่สุคติทั้งหลาย ตั้งแต่มนุษย์ เป็นเทวดา เป็นพรหมขึ้นไป
ไปเสวยความดี ความสุข ความสงบ ผลของความดี ความสุข ความสงบ แล้วก็หล่นลงมา
ข้ามโอฆะไม่ได้ ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่

ทางสองทางนี้แหละ คือความสุดโต่งสองด้านนี้แหละ พระพุทธเจ้าบอกไม่เอา
ทางสายกลางมีอยู่ ถ้าเราอยากพ้นทุกข์จริงๆ เบื้องต้นหัดรู้สึกตัวไว้ก่อน
การที่เราคอยรู้เนื้อรู้ตัวนี่เราจะไม่หลงตามกิเลสไป
แต่ให้รู้ ไม่ใช่ให้เพ่ง ไม่ใช่ให้บังคับ ไม่ใช่ให้ดัดแปลง
ถ้าเพ่ง ถ้าบังคับ ถ้าดัดแปลง อันนี้คือการบังคับตัวเอง
มีผลให้เราได้เป็นมนุษย์ที่ดี เป็นเทวดา เป็นพรหม
ถึงวันหนึ่งก็เสื่อมอีก ยังไม่พ้นการเวียนว่ายตายเกิด


Post a Comment

 
Copyright Electrical Blog All Rights Reserved
Powered by Alat Rekaman
ProSense theme created by Dosh Dosh and The Wrong Advices.
Blogerized by Bonard Alfin Forum Distorsi.